top of page

พ่อปู่องค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช (เนื้อชนวน) The Black Naga Guru (Bronze)

 

พ่อปู่องค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช, อาจารย์อินทร์แก้ว, สำนักดงพญาธรรม

ผู้เป็นใหญ่แห่งเมืองบาดาล

ผู้คอยเฝ้าดูแลทรัพย์สมบัติแห่งเมืองบังบด

นาคนิลกาฬประกายทองที่มีลำตัวใหญ่ที่สุด

ในเหล่าวงศ์วานพญานาค ผู้กำราบคนชั่ว

เมตตาคนมีศีลธรรม และคอยช่วยเหลือ

ปกปักรักษาคนดี แห่งสำนักดงพญาธรรม

สำหรับประวัติความเป็นมาของ "พ่อปู่องค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช" ต้องย้อนไปสมัยที่อาจารย์อินทร์แก้วท่านอายุได้ประมาณ 19 ขวบปี ท่านเล่าว่าตอนนั้นพื้นที่บริเวณสำนักดงพญาธรรมในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด คงเป็นป่าดงพงไพรอยู่ คุณปู่กับคุณย่าของท่านจึงได้สรางกระท่อมหลังเล็กๆไว้ให้อาจารย์อินทร์แก้วได้มานั่งปฏิบัติภาวนาตามเจตจำนงค์อย่างผู้ใฝ่ศีลใฝ่ธรรมพึงกระทำ
 

The Black Naga Guru by Arjarn Inkaew, Dong Phaya Tham Institution.

The eldest of the underground city who keeps watch over the wealth of the legendary town.

The gold glittering black scales Naga who has the largest body among the Naga dynasty.

The conqueror of evil, the wealthy underworld deity who always be kind to moral people and protect good people.

 

For the history of "The Black Naga Guru (Phor Pu Ong Dam Saen Sirichandra Nakarat)" has to go back to the time when Arjarn Inkaew was about 19 years old. He said that at that time in the area around Dong Phaya Tham Institution, there were no buildings yet. It was still dense forest and abandoned land. Therefore, his grandfather and grandmother built a small hut for Arjarn Inkaew to stay and practice meditation according to his intention, as a person who pursues precepts and Dhamma should do.

พ่อปู่องค์ดำแสนศิริจันทรานาคราช (เนื้อชนวน) The Black Naga Guru (Bronze)

1.500,00฿Preis
  • เมื่อสร้างกระท่อมเสร็จ อาจารย์อินทร์แก้วก็ได้ตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ที่กระท่อมแห่งนั้นว่า ท่านจะตั้งใจปฏิบัติภาวนาจำศีล เดินจงกรม กินข้าวหนึ่งมื้อ และปิดวาจา เป็นเวลา 15 วันติดต่อกัน อาจารย์อินทร์แก้วท่านเล่าว่า พอประมาณวันที่ 7 วันที่ 8 ในขณะที่ท่านกำลังนั่งสมาธิอยู่ ได้เกิดนิมิตขึ้นในดวงจิตของท่านในนิมิตนั้นท่านเห็นว่า รูเล็กๆบนพื้นดินเบื้องหน้ากระท่อมที่ท่านนั่งอยู่ ได้กลายเป็นสระน้ำทรงสี่เหลี่ยมปรากฏขึ้นมา มีบันไดให้เดินลงไป และข้างๆสระน้ำได้ปรากฏร่างของชายร่างใหญ่กายสีดำ แต่ท่านเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน กล่าวกับอาจารย์อินทร์แก้วว่า จะพาท่านจะพาลงไปดูเมืองบาดาล อาจารย์อินทร์แก้วก็ตอบตกลงและเดินลงสระน้ำไปกับชายท่านนั้น อาจารย์อินทร์แก้วเล่าว่า พอท่านเดินลงไปก็เหมือนได้เห็นเมืองอีกเมือง มีลักษณะคล้ายทุ่งนา มีคลองน้ำใสทอดยาวสุดลูกหูลูกตา สองฝั่งคูน้ำมีปราสาทโบราณและสิ่งปลูกสร้างที่มีความวิจิตรตระการแปลกตาจากเมืองมนุษย์เต็มไปหมด ท่านได้เดินตามชายท่านนั้นไปนานแค่ไหนไม่ทราบได้ จนมารู้ตัวอีกทีก็คือตอนออกจากสมาธิ

    When the hut was completed, Arjarn Inkaew made a truthful prayer at the hut that he would focus on practicing meditation, hibernating, walking meditation, eating one meal, and closing his speech for 15 days in a row. Arjarn Inkaew said that approximately on the 7th day, or the 8th day, while he was meditating, a strange vision arose in his mind. In that vision he saw that a small hole on the ground in front of the hut where he was sitting, there was a square pond appeared. That square pond has stairs to walk down. And next to the pond appeared the figure of a big black man. But, he couldn't see his face clearly. The big black man said to Arjarn Inkaew that he would lead Arjarn Inkaew to see the underground city. Arjarn Inkaew agreed and walked down the pond with the big black man. Arjarn Inkaew said that when he walked down, he saw another city that looked like a rice field with a canal of clear water stretching as far as his eye could see. On both sides of the moat, there were ancient castles and buildings that were full of splendor and strangeness from human cities. While Arjarn Inkaew followed that big black man, he did not know how long until he became aware of consciousness again after he came out of meditation.

bottom of page