top of page

3. #มะโนห่ารี่ปานกุมคำ
เป็นยาขั้นกลางไปถึงขั้นสูง ไปถึงขั้นกษัตริย์ชั้นเทวดา ใช้พกพาติดตัว หรือปั้นเป็นแท่งตั้งไว้ในบ้าน จะทำให้มีเสน่ห์เมตตา อุดมอำนาจวาสนาบารมี ดีในทุกๆทาง เรียกว่า สมบูรณ์พูนสุข มีคำกล่าวว่า "ปานได้กุมขุมทรัพย์ทองคำใว้ในมือ" เลยทีเดียว

- - - - - - - - -

 #ข้อห้าม:
ห้ามกินเหล้า สุรา เบียร์ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอกอฮอล์, ห้ามกินของในงานศพ, ห้ามกินของในงานแต่งงาน, ห้ามกินของเซ่นไหว้ทุกชนิด (ยกเว้นของถวายพระพุทธ), ห้ามลอดใต้ศพ

หากไม่สะดวกในข้อห้าม หรือจำเป็นที่จะต้องผิดข้อห้าม หรือจะดื่มเครื่องดื่มแอกอฮอล์ต่างๆ ให้ถอดยาออกจากตัวก่อน เมื่อสร่างจากฤทธิ์เมาจึงค่อยนำยามาพกพาใหม่ได้ มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดครูยา ดังนั้นพระอาจารย์โอท่านจึงแนะนำให้เลี่ยมยาไว้พกพา หรือแขวนยาแบบเครื่องราง จะได้สะดวกในการพกใช้ และไม่ผิดข้อห้าม

โดยยาแต่ละขนิดที่พระอาจารย์โอท่านนำมาเผยแผ่นี้ ได้ผ่านการขอประสิทธิ์ ขอเต็กธิยาจากครู เพื่อสำหรับ "ใช้พกพา" โดยเฉพาะ ซึ่งฤทธิ์ยาจะค่อยๆแสดงผลออกมาเรื่อยๆตามระยะเวลาการถือครองยาของผู้เป็นเจ้าของ เช่น3เดือนได้ผลระดับนึง 6เดือนก็ได้ผลอีกระดับนึง 12เดือนได้ผลไปอีกระดับนึงแบบนี้เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้นำยาชุดนี้ไปขูดผสมน้ำเพื่ออาบกิน ขูดผสมยาสักเข้าตัว หรือใช้ในทางอื่นๆ นอกจากใช้พกพาติดตัวเป็นเครื่องรางเท่านั้น

เพราะยาวิเศษเหล่านี้จะไม่รับใช้บุคคลที่ไม่มี "อำนาจเต็กธิ" คืออำนาจที่จะสั่งยา อันได้มาจากการสืบทอดจากคนในนิกาย หรือได้รับการมอบหมายมาจากองค์ประมุขแห่งนิกายโดยตรงเท่านั้น

ดังนั้นปุถุชนบุคคลทั่วไปที่ถือครองยาเหล่านี้ ก็ถือว่ายังเป็นบุคคลนอกนิกาย ไม่ได้เป็นสาวกในนิกายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจสั่งยาหรือใช้ยาในรูปแบบอื่นๆที่ลึกลงไปได้ แต่อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่อยากนำยาไปใช้นอกเหนือจากการพกพาติดตัวนั้น พระอาจารย์โอท่านจะมียาอีกชุดหนึ่ง ในรูปแบบของผง ไม่ได้ปั้นเป็นแท่ง มีจำนวนไม่มาก ขอสงวนไว้เป็นกรณีพิเศษ สำหรับคนพิเศษเป็นเฉพาะๆรายไป

ยามีเทพคุรุรักษา ดังนั้นให้พิจารณาในความพร้อมด้วย ไม่พร้อมอย่ารับไป เพราะจะพลาดผิดละเมิดคุรุและเทพที่รักษายา ขีวิตจะกลับตาลปัตร แก้ได้ยากและใช้เวลานาน ดังนั้นไม่ควรให้ผิดข้อห้ามจะดีกว่า ด้วยอุปลักษณะวิถีของคนไทย มักอ้างว่าตนเป็นคนพุทธ แต่ก็ไม่ค่อยเคร่งกันเท่าไหร่ จะต่างจากคนพม่าที่นับถือศาสนาพุทธ ที่ค่อนข้างเคร่งในข้อปฏิบัติกันเป็นปกติ ดังนั้นกฏข้อห้ามในการพกใช้ยาวิเศษชนิดต่างๆ คนพม่าพุทธจะถือได้ง่ายกว่า และได้ผลกว่าคนไทยพุทธ เพราะถือเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันเหมือนเรื่องปกติสำหรับเขา อย่างไรก็ดี มันก็จริงอยู่ว่าคนที่ปฏิบัติไม่ได้ในพม่านั้นก็มี แต่ที่ชัดแจ้งเห็นชัดคือ คนที่ปฏิบัติได้นั้น ไม่มีใครตกต่ำเลย

มะโนห่ารี่ปานกุมคำ ยอดยาพลิกชะตาฟ้ากับเหว Holy Medicines Of Wern Gang.

3.600,00฿Precio
  • 3. Mano Hari Pankum Kham. (Ma no h̄̀ā rī̀ pān kum khảm)
    It is an inbetween of intermediate level medicine and advanced level medicine until reaching the level of the angelic king. It is the portable amulet for carrying around or set up at home. Its power will create charming aura for the holder and also bring auspiciousness, ascendancy, prestige come to the place. It can be said that this holy medicine is good in every way like the provorb stated that "Like As Having The Golden Treasure In Hands".

    - - - - - - - - -

    Prohibition:
    Do not consume alcoholic beverages such as whisky, wine, beer and etc, do not eat food from funeral ceremony, do not eat things at weddings, do not eat offerings for any kind of spirits (except the offerrings for Buddha image), do not go under the corpse.

    If you are inconvenient to avoid the prohibition or you need to break the prohibition as above mentions, or you want to drink alcoholic beverages, you must remove the holy medicine out from yourself first. For example, if you need to drink alcoholic beverages, when you recovering from the effects of drunkenness, then you can bring the holy medicine to carry again. Otherwise, it will be a violation of the holy medicine teachers. Therefore, Phra Arjarn O advises everyone who owns this holy medicine to carry around or make waterproof casing for it for hanging like amulet, this using method will be convenient to carry and does not violate the prohibition.

    Each type of holy medicine that Phra Arjarn O brought to release for rent this time has already passed the permission from the senior Burmese master who is the chief executive grandmaster of the cult for using as "Portable Amulet" especially, The effect of the medicine will gradually express out for supporting the owner according to the duration of holding the medicine. For example, holding 3 months will get 1st stage of results, 6 months will get 2nd stage of results, 9 months will get 3rd stage of results and so on. Therefore, it is not recommended to scrape or mix the medicine with water for bathing, drinking and tattooing or use it in other ways.

    Because these holy medicines will not serve those who do not have "Tek Thi power" which is the authority right to prescribe or control medicine that must be obtained by inheriting from the people of the sect or assigned directly from the sect master only.

    Therefore, ordinary people who own these holy medicines are still considered as the outsiders, not become the disciple of the sect directly yet. So, ordinary people have no power to prescribe or use other complex functions of medicine. However, for those who want to use the medicine aside from carrying it as amulet, Phra Arjarn O will have another set of holt medicines in the powder form, not molded into bars yet. The powder form of those holy medicines are reserved in special circumstances for special believers individually.

    Every holy medicine has the Burmese gurus and gods remain inside. Therefore, you need to consider the readiness for owning as well. If you are not ready, don't take it better because you may make mistakes or violating the Burnese gurus and gods who remain inside the medicine causing your life to turn upside down and it is quite difficult and time consuming for solving the effect of breaking violation. Therefore, it is better not to break the prohibition. Due to the characteristics of Thai people often claiming to be a Buddhist but it's not very strict. It is totally different from Burmese people who practice Buddhism which is quite strict in the practice as usual. Therefore, the rules or prohibition in the use of various kinds of holy medicines. Burmese Buddhists are easier to maintain and more effective than Thai Buddhists because it was a daily routine as usual for Burmese people. However, it is sure that not every Burmese people can perform the rules or prohibition but, what is clearly evident is all Burmese people who can do it, no one is down. 

  • #ยาวิเศษแห่งแก๊งเวินพันธมิตรวินไกน์

    ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ถือครองยาวิเศษเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นราวฟ้ากับเหว ด้วยฤทธานุภาพของยาที่ค่อยๆแผ่ซ่านซึมออกมาสู้ธาตุขันธ์วิญญาณธาตุของผู้ถือครอง ลองสังเกตุดูได้ หากเป็นคนที่ชอบดื่มของมึนเมาเป็นประจำ เมื่อได้พกยาวิเศษชุดนี้ไปสักพักนึง จะรู้สึกได้ว่าอาการอยากดื่มของมึนเมาเหล่านั้นค่อยๆลดหายลงไป เปรียบดั่งสำนวนที่ว่า "คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล” คือยาวิเศษเหล่านี้เป็นวัตถุมงคลทางเจริญรุ่งเรือง ผู้ถือครองยาก็ย่อมถูกคุณวิเศษของยานำทางไปในทางเจริญรุ่งเรืองด้วย เมื่ออยู่ใกล้สิ่งไหนก็ย่อมเป็นสิ่งนั้น

     

    ยาชุดนี้พระอาจารย์โอท่านได้มาจาก "สย่าไทใหญ่" ท่านหนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วชื่อเสียงศักดิ์ศรีของเกจิอาจารย์ไทใหญ่อาจจะเป็นรองพม่า แต่ความสามารถของสย่าไทยใหญ่ท่านนี้ เก่งกาจจนแม้แต่นิกายวินไกน์ในพม่ายังให้ความยอมรับนับถือ แม้จะเป็นคนไทใหญ่บนเขาบนดอยแต่หาญกล้าท้าทุกนิกายใหญ่ๆได้ ก็เรียกว่าไม่ธรรมดา

     

    สย่าไทใหญ่ท่านนี้จึงได้เชิญเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม "แก๊งเวิน" คือกลุ่มผู้วิเศษอันเป็นเสมือนพันธมิตรของนิกายนุกาหม่านวินไกน์ "แก๊งเวิน" จึงเป็นกลุ่มแก๊งนิกายย่อยที่แตกออกมาจากนิกายวินไกน์ มีทั้งนิกายที่มีคำว่า "วินไกน์" อยู่หลังเป็นนามสกุล และมีทั้งกลุ่มวินไกน์ที่แยกตัวเองออกมาแล้วตั้งชื่อนิกายใหม่เองโดยไม่ใช้แซ่นามสกุลวินไกน์ต่อท้าย อย่างนิกาย "มโน จิต ตุป ปาท"

     

    ซึ่งมีหลายเหตุผลในการแตกกลุ่มย่อยออกมาจากนิกายนุกาหม่านวินไกน์ อย่างเช่นว่าฝ่ายที่ทำยาประเภท "เข้าผี" ก็มักแยกออกไปเป็นกลุ่มแก๊งนอกนิกาย เนื่องด้วยไม่อยากให้นิกายหลักด่างพร้อยหรือถูกกล่าวว่าในทางเสื่อมเสีย อย่างยาวิเศษของวินไกน์นั้นจะมีอยู่สองฝ่ายสองประเภทคือ นิกายย่อยมักจะทำยาประเภท "เข้าผี" ส่วนนิกายหลักมักจะทำยาประเภท "ไม่เข้าผี"

     

    คำว่าเข้าผี เข้าพรายในที่นี้ไม่ใช่ว่าเอากายสังขารของมนุษย์ผู้วายชนม์มาทำ แต่แค่นำมาเป็นองค์ประกอบในพิธีกรรมการสร้างยาเฉยๆ อย่างเช่นว่า การทำสีผึ้งบางขนิด จะต้องอาศัยตัวยาพิเศษที่ได้มาจาก การนำว่านตัวนึงไปผสมกับแป้งผัดหน้า แล้วค่อยนำแป้งนั้นไปผัดหน้าหญิงตายทั้งกลม พอทำพิธีเสร็จสรรพจึงขูดเอาแป้งผัดหน้านั้น มาเข้าเครื่องยา แล้วค่อยนำไปเป็นส่วนผสมในการทำสีผึ้งอีกที แบบนี้เป็นต้น แต่ยาวิเศษที่พระอาจารย์โอท่านได้มาจากสย่าไทยใหญ่ชุดนี้ยังจัดอยู่ในประเภท "ไม่เข้าผี" อยู่

     

    The Holy Medicines Of Wern Gang, the alliance of "Nu Kar Marn Win Kai" Sect.

    The life of the holders of these holy medicines would gradually improve like raising from the abyss to the heaven sky with the power of the medicine that slowly permeated out into the possessor's soul & body essence. For visible example, the people who like to drink alcoholic beverage regularly. After carrying this set of holy medicines for a while, they will feel that the symptoms that make them want to drink all the time will gradually disappear. It likes the idiom saying that "Keep not ill men company lest you increase the number” is that these holy medicines are auspicious objects for prosperity. The holder of the medicine would also be guided by the magic of the medicine to prosper in life as well. When you are near something, it will be like that always.

     

    For this set of holy medicines, Phra Arjarn O obtained from "Tai Yai Saya (Shan Senior Master)". Normally, the magic masters of Shan or Tai Yai are usually have inferior reputation when comparing with Burma masters but, the ability of this "Tai Yai Saya" is so adept and skillful that even the Win Kai sect in Burma respect him. Even though he is a Shan person on a hill but, he has the superior powerful magic skills to challenge all major sects in Burma which is unusual phenomenon.

     

    Therefore, this Tai Yai Saya was invited and acredited to become a member of the group "Wern Gang", a group of legendary magicians who are like an alliance of the most mighty sect of "Nu Kar Marn Win Kai". “Wern Gang” also refers to the sub-sect that separated out of the Nu Ka Marn Win Kai sect. There are even sects that have the word "Win Kai" after their last name. And there are groups of Win Kai who have separated themselves and named their new sect without using the surname Win Kai, such as the sect "Mano Chit Tupa" (Mno cit tup pāth).

     

    There are many reasons for the split from Nu Kar Marn Win Kai sect. For example, the faction that produces "Ghost Composition" medicines tends to split into gangs outside the main sect because they didn't want the main sect to be tainted or to be said in a derogatory way. For example, there are two types of Win Kai's holy medicines. The subsects usually make "Ghost Composition" medicines, while the main sects often make "Non Ghost Composition" medicines.

     

    The meaning of "Ghost Composition" here, it's not something that made from some parts of corpse directly but, it means the corpse will be used as an composition in the ritual of making medicine. For example, some types of magic wax must rely on a special medicine obtained from mixing a special herb with face powder. Then, bring that face powder to cover the face of the dead woman who died during pregnancy. When the ceremony is finished, all of face powder will be scraped off her face and then the face powder will be used as an ingredient to make that magic wax. But, this set of holy medicines that Phra Arjarn O got from Tai Yai Saya are still classified as "Non Ghost Composition" medicines

bottom of page