top of page

กำไลปรอทกินเงิน รุ่นทวาทะสะมงคล Mercury Eat Silver Bracelet (Version: Tawar Tasa Mongkol)

✨❄️☀️🌕#กำไลปรอทกินเงิน รุ่น"ทวาทะสะมงคล" ,พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช,จ.เพชรบูรณ์

‼กำไลเงิน ที่มีดีมากกว่าความสวยงาม

แม้กำไลนี้มีวรรณะเหมือนแพลตตินั่ม แต่มีค่ายิ่งกว่ามาก เป็นปรอทกินเงินในรูปแบบของกำไล โดยพระอาจารย์โอได้นำปรอทกินเงินส่วนที่เตรียมไว้สำหรับการหุงเป็นเม็ด มารีดขึ้นวงเป็นกำไลอันสวยงาม

⚠️พระอาจารย์โอได้จารอักขระ ลงบนกำไลทุกวงด้วย ”ยันต์ทวาทะสะมงคล”

"ทวาทะสะมงคล" อันหมายถึงเลขมงคลทั้ง๑๒ (ทวา=๒ ,ทะสะ=๑๐) เป็นกลเลข,หัวใจคัมภีร์,และองค์ประกอบแห่งพระยันต์ "ตรีนิสิงเห" ประกอบด้วยเลข ๑๒ ตัว เรียงร้อยออกมาเขียนได้ตามลำดับคือ ๓, ๗, ๕, ๔, ๖, ๕, ๑, ๙, ๕, ๒, ๘, ๕ การลงตัวเลขเหล่านี้ลงบนวัตถุใดก็แล้วแต่ จะต้องมีการเรียกสูตรเฉพาะเจาะจงตามที่ร่ำเรียนมา โดยตัวเลขแต่ละตัวจะมีความหมายต่างกันออกไปเช่นกัน


"ตรีนิสิงเห" เป็นยันต์ที่ว่าด้วยการกำเนิดแห่งทวยเทพทั้งสิบหกชั้นฟ้าสิบห้าชั้นดินยี่สิบสี่บาดาลตลอดจนถึงการกำเนิดแห่งองค์พุทธะ ซึ่งในการประกอบพิธีมงคลต่างๆ จะขาดองค์ตรีนิสิงเหนี้มิได้เลย

เพราะพระยันต์ตรีนิสิงเหเป็นยันต์ครูใหญ่แห่งยันต์ทั้งปวง มีคุณทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปัดป้องสิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไร ที่สำคัญยังช่วยหนุนนำดวงชะตามิให้ตกต่ำอีกด้วย ในตำราพระเวทย์จึงยกย่องให้พระยันต์ตรีนิสิงเหเป็นยันต์ที่รวบรวมเอาพุทธคุณอันประเสริฐเทพเทวาที่รักษาโลกธาตุ และคุณพระรัตนตรัยอันเป็นมงคลสูงสุด ดุจดังคำว่า (ธัมโม หเว รักขติ ธัมมจารี) หมายถึง ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมให้พ้นภัย ก็เท่ากับว่าเราถือธรรมอันสูงสุดมาไว้บูชา


โบราณท่านว่าถ้าปราถนาสิ่งใดๆก้ได้ดั่งปราถนาแล ใช้แขวนเรือนเวลาคลอดบุตรหรือเรือนผู้มีลูกอ่อน เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจและโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ยันต์ตรีนิสิงเหยังนิยมใช้จารบนแผ่นโลหะติดเสาเรือน เพื่อปัองกันไฟไฟไหม้และฟ้าผ่า อีกทั้งยังสามารถดับเรื่องเลวร้ายให้กลับเป็นดี และยังมีผลในทางด้านอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม ตลอดจนถอนคุณไสยสิ่งอวมงคลทั้งมวล เป็นเมตตามหานิยม และอุดมผลทางโชคลาภโภคทรัพย์ พุทธคุณแบบฝอยท่วมหลังช้าง เป็นมหาวิเศษประเสริฐนักแล


-------


🌞 #หากปรอทกินทองเป็นดั่งพระอาทิตย์

🌕 #ปรอทกินเงินก็เป็นดุจพระจันทร์

ของ "เจ้าสยาดอ ปะดา เมียเมียโล็วตี ก็อดเมอคิวรี่เวรี่แฮนซั่มเมจิกมาสเตอร์" (พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา)

ทายาทสายวิชา ท่านอาจารย์อูว์กว่าหล่า และ ท่านอาจารย์อูว์จี สำนักประดาสิทธิเมืองเมียวดี


ปรอทกินทองและปรอทกินเงินเป็นปรอทกายสิทธิ์ประเภทหนึ่งตามศาสตร์วิชาเล่นแร่แปรธาตุ ขึ้นชื่อลือชาว่ามีคุณวิเศษอนันต์จริง แต่การจะหาใครซักคนทำได้สำเร็จนั้นยากยิ่ง


เหตุที่ปรอทกายสิทธิ์ชนิดนี้ถูกเรียกว่าปรอทกินเงินก็เนื่องจาก เวลาหุงต้องคอยป้อน "เงินกายสิทธิ์" เลี้ยงใส่ให้ปรอทกิน โดยแต่ละครั้งที่นำปรอทไปหุงในเบ้านั้น ผู้ทำต้องคอยป้อนเงินกายสิทธิ์ให้ปรอทกินในปริมาณที่พอเหมาะพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เพราะหากปริมาณสัดส่วนของแร่เงินและปรอทไม่ถูกต้องตามสูตร ทั้งปรอทและแร่เงินจะหนีหายออกจากเบ้าไปหมด ซึ่งแต่ละครั้งที่ปรอทได้กินเงินกายสิทธิ์เข้าไป อิทธิฤทธิ์ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ผู้เผาปรอทชนิดนี้จึงต้องทำอย่างพิถีพิถันและละเอียดรอบคอบถึงจะได้ปรอทกินเงินที่มีฤทธิ์ตามตำรา


พระอาจารย์โอกล่าวว่า ปรอทกินเงินนี้ ทำได้ยากกว่าปรอทกินทองมาก เพราะโลหะในโลกนี้มีอยู่อยู่สองชนิดที่ไม่สูญเพลิงเลยคือทองคำบริสุทธิ์กับปรอทบริสุทธิ์ ดังนั้นถ้าคิดเป็นอัตราส่วนแล้วแร่เงินหนัก 1 กิโลกรัมที่ใช้สำหรับการหุงปรอทกินเงิน กว่า 8 ขีดจะสูญเพลิงไปในขั้นตอนต่างๆ คงเหลือเพียง 2 ขีดเท่านั้น การหุงปรอทกินเงินเลยค่อนข้างทำยากและใช้งบประมาณมาก


นอกจากนี้ การเอาทองคำเลี้ยงปรอทนั้น สามารถเลี้ยงได้ไวกว่า เพราะทองคำเป็นธาตุที่ปรอทชื่นชอบอยู่แล้ว แต่การเอาเงินเลี้ยงปรอทนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆจะเอาเงินเลี้ยงปรอทได้เลย เพราะตามธรรมชาติแร่เงินจะมีปฏิกริยาต่อต้านกับปรอทอยู่ ดังนั้นจึงต้องมีกรรมวิธีพิเศษในการเตรียมแร่เงินสำหรับเลี้ยงปรอทโดยเฉพาะ


โดยเริ่มจากพระอาจารย์โอได้นำก้อนแร่ต่างๆที่มีปรอทแทรกอยู่มาตำเป็นผง กวนผสมกับเครื่องยาเฉพาะในครกหิน ปรอทก็จะค่อยๆไหลออกมาจากแร่ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ระยะเวลานาน และความอุตสาหะมาก เพราะต้องคอยหมั่นกวนตลอดเวลา หลังจากนั้นพระอาจารย์โอจึงจะนำแร่เงินบริสุทธิ์ไปเข้าธาตุกับปรอทที่ได้จากการกวนอีกทีหนึ่ง แล้วจึงทำการดองเพื่อเป็นการ "ฆ่าธาตุ" ให้เงินตาย ซึ่งการฆ่าธาตุตายนี้เป็นการทำธาตุกายสิทธิ์ให้มีคุณในตัว คือตายจากสิ่งหนึ่งไปเกิดอีกสิ่งหนึ่ง เรียกว่า "โอปาติกะธาตุ" เช่น สำนักวัดปากคลอง จะมีการฆ่าทองแดงตาย เรียกทองแดงโดด ฆ่าเหล็กตายแบบพระเหล็กไหลดอยไซ ฆ่าตะกั่วตายแบบหลวงพ่อเนียม วัดน้อย เป็นต้น เมื่อ "ปรอท" และ "เงิน" หลอมรวมกัน "เงินกายสิทธิ์" จึงถือกำเนิดขึ้นพร้อมสำหรับใช้ป้อนปรอทในขั้นตอนต่อไป


หลังจากนั้นจึงนำแร่เงินกายสิทธิ์ป้อนให้ปรอทกินอยู่นานจนปรอทอิ่มเงิน เพราะพระอาจารย์โอกล่าวว่า “การหุงปรอทกินทองหรือปรอทกินเงินก็ไม่ต่างกับการเลี้ยงไก่ หากเราให้อาหารไก่ด้วยอาหารที่มีคุณภาพ ไก่นั้นก็จะออกไข่ที่สดใหม่ให้เราเป็นการตอบแทน”


หากปรอทกินทองและปรอทกินเงินอยู่เคียงคู่กันแล้ว จะเป็นดั่งสุริยันและจันทรา เสริมฤทธิ์กันและกันได้เป็นอย่างดี อานุภาพแห่งกายสิทธิ์จะเพิ่มพูลเป็นเท่าทวี เหล่าผู้ศรัทธาในสายปรอทในประเทศพม่า มักจะนำมาปรอทกินเงินและปรอทกินทองมาทำแหวนสองหัวคู่กันในวงเดียว โดยจะหันหัวปรอทกินทองชี้ออกด้านนอกในตอนกลางวัน และหันหัวปรอทกินเงินชี้ออกด้านนอกในตอนกลางคืน


คุณวิเศษหลัก 5 ประการของปรอทกินทองและปรอทกินเงิน

1.ควรนำไปทำเป็นแหวนหรือจี้เพื่อให้สัมผัสกับร่างกายเพื่อให้ปรอทสามารถช่วยเหลือเกื้อหนุนผู้เป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ สามารถขับพิษร้ายที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกไป ทำให้มีกำลังวังชา ใช้สวมใส่เวลานอนหลับ ทำให้นอนหลับสบาย ตื่นมาด้วยความสดชื่น


2.ป้องกันสิ่งอัปมงคล อำนาจคุณไสย์มนต์ดำ ภูตผีปีศาจร้าย อันตรายทั้งปวงไม่ให้มากร้ำกรายราวี ทั้งยังป้องกันภยันตราย แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุเภทภัย เป็นคงกระพันชาตรี ศัตรูหมู่คนพาลแพ้ภัยตนเอง ป้องกันอสรพิษ สัตว์มีพิษทั้งหลายตลอดจนเขี้ยวงาต่างๆได้


3.ปรับสมดุลธาตุทั้ง๔ในร่างกายให้สม่ำเสมอ ไม่เจ็บป่วยง่าย มีสุขภาพดี ทั้งยังเสริมธาตุทองในตัว ช่วยเสริม อำนาจ วาสนา บารมี เสน่ห์ โชคลาภ หนุนดวง ให้ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง เสริมในสิ่งที่ขาด เสริมสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เพราะทองเป็นธาตุที่เข้าได้กับทุกธาตุไม่ว่าอยู่กับธาตุไหนก็ทำให้ธาตุนั้นมีค่า ส่องสว่างมากยิ่งขึ้น


4.เสริมดวงชะตาราศี เวลาดวงชะตาขึ้น ปรอทจะสุกใสเปล่งประกายทอง เวลาดวงตกเคราะห์ร้ายตามอิทธิพลของจักรราศี ปรอทจะหม่นหมองคล้ำดำลง เมื่อสีสันของปรอทคล้ำลงให้นำปรอทไปแช่ในน้ำส้มป่อยแล้วอาราธนาคุณครูบาอาจารย์และเทพเทวดาผู้อารักษ์รักษาปรอทช่วยเสกน้ำให้เป็นน้ำมนต์อาบตัว แล้วควรทำบุญสะเดาะเคราะห์เสีย จะดีนักแล


5.เวลาจะเดินทางไปไหน ให้นำน้ำหอมมาประพรมลูบทาที่ปรอทแล้วอธิษฐานจะสมดังใจเราแล เมื่อบูชาปรอทเจ้าของควรไหว้พระสวดมนต์อยู่เสมอหรือสวดบทพระพุทธคุณ อิติปิโสวันละ3รอบจะดียิ่งๆขึ้นไปอย่างมากนักแล


❄️☀️🌕

Mercury Eat Silver Bracelet (Version: Tawar Tasa Mongkol)by Phra Arjarn O, Phetchabun.

‼️For this version, Phra Arjarn O wrote Yant “Tawar Tasa Mongkol.”

"Tawar Tasa Mongkol" means the 12 auspicious numbers (Tawar=2, Tasa=10). It is the mathematical knowledge, the scripture's heart & the main element of "Trinisinghe" consisted of 12 numbers that were arranged respectively 3, 7, 5, 4, 6, 5, 1, 9, 5, 2, 8, 5. The method to write these numbers on any object must be done follows the specific formula of chanting each spell for each number because each number has its own meaning too.


"Trinisinghe", this subject refers to the origin of god from 16 levels of the sky, 15 levels of the ground and 24 levels of the nether world.


“Trinisinghe” is the necessary subject for every auspicious ceremony because “Trinisinghe” is the primary Yant that was praised to be teacher of all Yants. The functions of “Trinisinghe” is universal such as charm, protection, safe and supporting destiny. In the ancient magic scripture said that this Yant is the combination of Threefold refuge’s power so, who has this Yant like as having the great dharma in life.


Magic masters in the former times said that “Trinisinghe Yant” can make whatever wish come true. Placing it in home will protectfamily members from black magics and ghosts. Moreover, “Trinisinghe Yant” is a popular Yant that magic masters always admire to write on the metal plate to stick at home pillar to protect fire, thunderbolt and transform bad thing to be good thing. Furthermore, it also can protect the owner from dangerous weapons and indigence. Therefore, the functions of “Trinisinghe Yant” is like as the hair on the elephant’s back.


5 Fantastic Functions Of Mercury Eat Silver.

1.The owner should take Mercury Eat Silver to make a ring or pendant because when Mercury Eat Silver touch the owner’s skin directly, it will expel disease and illness out of the owner and also support the owner effectively. It will increase the owner’s energy and help the owner sleeps well and wake up with freshness.


2.Mercury Eat Silver can protect the owner from black magic, ghost, poisonous animal, accident and danger. Being invulnerableand eliminate opponents.


3.Mercury Eat Silver will improve the owner’s health to be healthy and reinforce the silver mineral inside the owner’s body that will support the owner to be lucky, wealthy and having a good look. Also good for business and support whatever the owner lack off.


4.Mercury Eat Silver will support the owner’s destiny. When the owner’s destiny raises up, Mercury Eat Silver will be shining as platinum. In the other hand, when the owner’s destiny is down due to the zodiac changes, Mercury Eat Silver will become dull. Therefore, when Mercury Eat Silver become dull, the owner should take it into the pure water and pray to the mercury teacher and holy things who maintain this Mercury Eat Silver to bless the water to be holy water for bathing and go the make merit at the temple also.


5.The owner should perfuse perfume upon Mercury Eat Silver and then make a wish, the wish will come true. The owner should pay respect to Buddha and chant Buddha’s spell often to get the complete effectiveness of Mercury Eat Silver.

29 views1 comment