top of page

ตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์รุ่น 2

💕🥇#ปฐมบทแห่งตะกรุดเสน่ห์ใจขาด🥇💕 เมื่อประมาณปี2545พระอาจารย์โอได้ทดลองสร้างตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขึ้นตามตำราที่ได้ร่ำเรียนมา เพื่อทดลองว่าหากลงยันต์และปลุกเสกอย่างเต็มขั้นแล้ว จะมีพลานุภาพดั่งที่เขียนไว้ในตำราหรือไม่ โดยพระอาจารย์โอได้สร้างไว้ในครานั้นเพียง2ดอก และได้มอบหนึ่งในสองดอกให้ลูกศิษย์ท่านนึงไปใช้จนกลายเป็นคลาสโนว่าในตำนานที่หาตัวจับยาก เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ลูกศิษย์ กลายเป็นไอดอลของใครหลายๆคน เนื่องจากลูกศิษย์ท่านนั้นได้มีภรรยาถึง11คน ซึ่งภรรยาแต่ละคนก็อยู่กันคนละบ้าน โดยที่ไม่มีภรรยาคนไหนรู้เลยว่าสามีของตนนั้นมีภรรยาอยู่อีก10คนอย่างน่าอัศจรรย์จวบจนถึงทุกวันนี้

ส่วนอีกดอกหนึ่งนั้นพระอาจารย์โอได้นำไปใส่ไว้ในกระถางธูปเมื่อสมัยยังอยู่วัดเก่า ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่ว่าเมื่อใดก็ตามที่พระอาจารย์โอจุดธุปปักในกระถางธูปที่มีตะกรุดเสน่ห์ใจขาดอยู่ มักจะมีคนแวะเวียนเข้าวัดตลอดเวลา จนแทบไม่ได้พัก ขนาดที่ว่าพระอาจารย์โอต้องนำบันไดออกจากกุฎิ ตอนอาศัยอยู่บนกุฎิสองชั้นที่วัดเก่า ไม่เช่นนั้นจะมีคนขึ้นมาหาที่กุฎิตลอดเวลา เมื่อพระอาจารย์โอได้ทดลองจนเห็นแล้วว่าตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี้มีพลานุภาพดั่งที่บรรยายไว้ในตำราทุกประการ จึงได้นำตะกรุดออกจากกระถางธูป หลังจากนั้นตะกรุดเสน่ห์ใจขาดดอกนั้นก็ได้สาปสูญไปตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จนเมื่อปี 2561 ขณะที่พระอาจารย์โอจัดเตรียมพื้นที่ในวัดใหม่ก็เจอตะกรุดเสน่ห์ใจขาดดอกนี้โดยบังเอิญอีกครั้ง เป็นเหตุให้ท่านตัดสินใจสร้างตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกมาให้ผู้ที่เรียกร้องได้นำไปใช้นั่นเอง

💕🥇The Origin Of Takrud Sanae Jaikard.🥇💕 Phra Arjarn O has ever made Takrud Sanae Jaikard Holy Sky in the year B.E.2545 only 2 pieces to inherit the magic subject and test that the power of this Takrud will be like as description in the textbook or not. One piece was owned by one disciple who became the legendary Casanova that is very famous and well-known among Phra Arjarn O’s disciples because he has 11 wives for 11 homes but, each wife does not know that her husband has others 10 wives behind until now.

For the second piece, Phra Arjarn O brought it in the joss stick pot during he stay at the old temple. Surprisingly, whenever Phra Arjarn O light the joss stick and put in the joss stick pot, people always come in the temple continuously until Phra Arjarn O don’t have time to take a rest. Phra Arjarn O has to remove the ladder out from his 2 floors monk’s house otherwise people always come to meet him all the time. Therefore, Phra Arjarn O realized that the power of Takrud Sanae Jaikard Holy Sky is like as the description in that textbook at all. After that, he took the Takrud out of the joss stick pot and then it was disappears since that time. Until B.E.2561, during Phra Arjarn O prepared things in his temple, he found this one unexpectedly so, he decided to make new version of Takrud Sanae Jaikard Mindcontroller for the person who interested.

💕😈#ตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ (รุ่น 2), พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์😈💕 อุบัติขึ้นอีกครากับสุดยอดตะกรุดเสน่ห์ในตำนานนามว่าเสน่ห์ใจขาดที่มีพลานุภาพรุนแรงกว่ารุ่นใดๆที่เคยมีมา เพราะตะกรุดเสน่ห์ใจขาดชุดนี้คือ “ตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์” เป็นสุดยอดของตะกรุดเสน่ห์ใจขาดเฉกเช่นเดียวกับที่พระอาจารย์โอได้เคยสร้างไว้เมื่อปี2545เพียง2ดอกเท่านั้น

ตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี้สร้างจากแผ่นเงินอาถรรพ์ที่มีความพิเศษอยู่ในตัว เพราะแผ่นเงินอาถรรพ์นี้พระอาจารย์โอได้ลงยันต์มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้งในระยะเวลากว่า3ปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่เมื่อครั้งน้ำท่วมกรุงเทพปี2554 โดยพระอาจารย์โอจะทำการเขียนยันต์บนแผ่นเงิแล้วจึงทำการพับก่อนจะเขียนยันต์ซ้ำลงไปอีก เมื่อโดนพับจนมีขนาดเล็ก ก็จะถูกนำไปรีดให้เป็นแผ่นใหญ่อีกครั้ง แล้วทำการลงยันต์ซ้ำไปซ้ำมาอย่างนี้อยู่หลายครา ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่า”การลงถม” เสมือนเป็นการเพิ่มความเข้มข้นให้แก่ชนวนมวลสารให้มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์เป็นร้อยพันทวีคูณ พระอาจารย์โอได้ทำการลงถมแผ่นเงินอาถรรพ์จนมั่นใจว่าเพียงแค่นำเศษเสี้ยวของแผ่นเงินนี้ไปพกไว้ ก็จะเกิดเป็นเมตตามหาเสน่ห์อย่างแรงแล้ว

เมื่อกล่าวถึงวิชาเสน่ห์ใจขาด จะมีมากมายหลายยันต์และหลายขั้นตามตำรา ตัวอย่างเช่น สาริกาใจขาด, ใจขาดหญิงรัก และใจขาดชายรัก และที่ถือว่าเป็นสุดยอดของวิชาเสน่ห์ใจขาดคือยันต์เสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีวิธีการลงอักขระเลขยันต์ เรียกนามเรียกสูตรที่สลับซับซ้อนและมากมายหลายขั้นตอน ขนาดที่พระอาจารย์โอถึงกับเอ่ยปากว่าการทำตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ละครั้งนั้นยากลำบากไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว เนื่องด้วยอักขระแต่ละตัวก็จะมีสูตรในการเรียกที่ต่างกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นอักขระตัวเดียวกันก็ตาม เช่นอุณาโลมมี10ตัว แต่ละตัวก็จะมีการเรียกสูตรเฉพาะของแต่ละตัวของใครของมันไม่ซ้ำกันเลย เสมือนจิตใจของมนุษย์ที่ยากแท้หยั่งถึง มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การเรียกสูตรของอักขระแต่ละตัวจึงมีความหลากหลาย จะได้ปรับเปลี่ยนไปตามจิตใจผู้คนทั้งหลายรอบตัว เพื่อให้ผู้ที่เป็นเจ้าของสามารถครองใจคนทุกประเภทไว้ได้ ไม่ว่าเป็นผู้ใด มาจากไหน มีอุปนิสัยอย่างไรก็จักต้องเป็นหลงรักสิเน่หาแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี้

เป็นการจัดสร้างเพื่อเป็นการต่อยอดตำนานและสืบวิชาไว้อีกครั้งหนึ่ง สาเหตุที่ไม่ได้สร้างมานานด้วยเหตุที่ว่าตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี้สร้างได้ยาก และมีอานุภาพรุนแรงมากจนพระอาจารย์โอเกรงว่าคนที่นำไปบูชาจะนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม การจัดสร้างครั้งนี้จึงมีจำนวนจำกัด โดยพระอาจารย์โอได้นำแผ่นเงินอาถรรพ์มาตัดเป็นแผ่น ก่อนจะทำการลงยันต์เสน่ห์ใจขาดฟ้าศักด์สิทธิ์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยกลวิชาขั้นตอนเฉพาะในฤกษ์เวลาและโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากมาก รวมไปถึงเคล็ดลับขั้นตอนต่างๆในการจาร,การม้วน, การกลึง และการปลุกเสก ตามที่ระบุไว้ในตำราซึ่งเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ ด้วยประการฉะนี้เอง ตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักด์สิทธิ์ชุดนี้จึงถือว่าเป็นราชาแห่งตะกรุดเสน่ห์ใจขาดอย่างแท้จริง สามารถใช้เรียกคนรัก, เรียกบุคคลที่หมายปอง, เรียกลูกค้า,เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่หรือใช้ติดต่อเจรจาค้าขายก็ย่อมสำเร็จโดยง่ายดาย เขียนชื่อผู้ใดใส่ไว้ในตะกรุดผู้นั้นจำต้องยอมสิโรราบด้วยความรักและความสิเน่หาที่เปี่ยมล้นอยู่ภายในจิตใต้สำนึกโดยไม่ทันรู้ตัวและไม่อาจปฎิเสธได้ พกพาไว้แนบเนื้อติดตัวเป็นเมตตามหาเสน่ห์อย่างรุนแรง ใครเห็นหน้าจักต้องหลงรัก หญิงใดชายใดเห็นเป็นต้องตาต้องใจ ยากที่จะละสายตาไม่ให้มองเหลียวตาม ยิ่งอยู่ใกล้จิตใจจะยิ่งหวั่นไหว ใจสั่นปานใจจะขาดโดยหาสาเหตุมิได้ ใช้แกว่งน้ำให้กินเป็นรักเป็นหลง หลับเป็นฝันตื่นเป็นคิดถึง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบของแรงและมีศีลธรรมเท่านั้น ⚠️จัดสร้าง 2 ขนาดด้วยกัน: -ดอกใหญ่ ลงยันต์เสน่ห์ใจขาด “ชุดใหญ่” บูชา 16,000 บาท -ดอกเล็ก ลงยันต์เสน่ห์ใจขาด “ชุดเล็ก” บูชา 1,600 บาท

💕😈Takrud Sanae Jaikard Holy Sky Mind Controller (Batch 2) by Phra Arjarn O, Phetchabun.😈💕 Once again with the legendary charming Takrud named “Sanae Jaikard (Heart ragged charm)”. For this time, Phra Arjarn O made the most powerful version of Sanae Jaikard subject named “Takrud Sanae Jaikard Holy Sky”.

Takrud Sanae Jaikard Holy Sky made from the mystic silver plate which has special itself because the mystic silver plate was written with various kinds of charming Yant more than 100 times during 3 years since the year B.E.2554. Phra Arjarn O wrote the charming Yant on the mystic silver plate. After that, Phra Arjarn O folded the mystic silver plate before write the Yant on it again. The plate was fold and written Yant until it was small before press it to be a plate again and then Phra Arjarn O continue to aggravate the Yant on that plate repeatedly to increase the power until he has confidence that even just a little piece of this mystic silver plate has fully charming power remain inside.

When talking about the magic subject name “Sanae Jaikard (Heart ragged charm)”, there are many Yants and levels according to the textbook such as Salika Jaikard, female Jaikard and male Jaikard but, the most powerful of the Sanae Jaikard subject is Yant Sanae Jaikard Holy Sky which is very complex and difficult to make due to the regular method and the mental power of the maker. Even Phra Arjarn O said that “It is not easy to make Takrud Sanae Jaikard Holy Sky to be powerful and completed all the regular recipe following the textbook.” because even the shape of some magic words are same but, the recipe to bless each word is different at all like as people’s mind always be changed all the time so, the owner of this Takrud can dominate others no matter whoever must fascinate and consent to the owner of this Takrud.

Phra Arjarn O did not make this Takrud for a long time because he afraid that the owner of this Takrud will use it in incorrect way so, he made in limited amount. Phra Arjarn O wrote the Sanae Jaikard Yant on the both face of the silver plate with the regular method and tactic follow the textbook which have been kept to be secret such as writing tactic, rolling tactic, turning tactic and blessing tactic. Therefore, this Takrud Sanae Jaikard Holy Sky is like as the king of Takrud Sanae Jaikard that the owner can use to call the mind of beloved person or others. Moreover, this Takrud Sanae Jaikard Holy Sky can be used to call customers, meeting with the high power person, negotiation or business communication successfully and effectively. The owner can write the person name on the paper and put inside the Takrud to make that person consist you because of undeniable fascination and love unconsciously. Keep it touch your skin for charming purpose. Whoever see your face will love you and difficult to stop looking at you. Moreover, who stay near with you will heart shaking like as heart will be ragged indeterminably. Can be used to sway in the water to feed your beloved person to have better relationship. In conclusion, Takrud Sanae Jaikard Holy Sky is suitable for the person who likes special powerful amulet and having morality also. ⚠️There are 2 sizes made: -Big size with “Big Yant”, Price 16,000 baht. -Small size with “Small Yant”, Price 1,600 baht.




-ดอกใหญ่ ลงยันต์เสน่ห์ใจขาด “ชุดใหญ่” บูชา 16,000 บาท -Big size with “Big Yant”, Price 16,000 baht.


ดอกเล็ก ลงยันต์เสน่ห์ใจขาด “ชุดเล็ก” บูชา 1,600 บาท Small size with “Small Yant”, Price 1,600 baht.


ดอกเล็ก ลงยันต์เสน่ห์ใจขาด “ชุดเล็ก” บูชา 1,600 บาท Small size with “Small Yant”, Price 1,600 baht.

🔮🥣#หม้อกุลา🥣🔮 ⚠️ #หม้อแห่งมนตราที่ยากหาใดเทียบเคียง เมื่อสมัยร้อยกว่าปีก่อน “ชนเผ่ากุลา” เป็นเผ่าที่มีความมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก พวกเขาได้บริจาคเงินจำนวนมากเพื่อบูรณะซ่อมแซมวัดภายในหมู่บ้าน อีกทั้งยังมอบคัมภีร์ที่มีอักษรจารึกทั้งภาษาไทยใหญ่ และภาษาพม่าให้แก่วัดอีกด้วย นอกจากนี้ชาวกุลายังเป็นชนเผ่าที่มีความเก่งกล้าสามารถ อีกทั้งยังมีความรู้ในศาสตร์หลายๆแขนง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางพุทธศาสนาหรือเวทมนตร์คุณไสยต่างๆ พวกเขาสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้โดยไม่ต้องพะวงกับพรมแดนของประเทศ เพราะชาวกุลามีวิชาปกป้องตนเอง อยู่ยงคงกระพันต่อศาสตาวุธและคุณไสยทุกชนิด และว่ากันว่าเป็นชนเผ่าแรกเริ่มเลยก็ว่าได้ที่มีการสักเสกเลขยันต์ลงบนเนื้อหนัง จะเห็นได้จากชายหนุ่มในชนเผ่ากุลาจะมีลายสักเต็มขากันแทบทุกคน

ชาวกุลามักจะหอบเร่สินค้าต่างๆไปยังเมืองน้อยใหญ่ โดยชาวกุลาหนึ่งคนจะพกพาหม้อหนึ่งใบไว้ติดตัวโดยตลอด เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เรียกว่าเป็น “หม้อคู่ชีวิต” เลยก็ว่าได้ ซึ่งหม้อของชาวกุลานอกจากจะมีความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังเชื่อกันว่ามีอาถรรพ์ในตัวอีกด้วย เพราะชาวกุลามักจะต้องเดินทางไปต่างถิ่นอยู่บ่อยๆ ก็ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกลองคุณลองวิชา แต่ชาวกุลาก็รอดจากคุณไสยเหล่านั้นมาได้อย่างปลอดภัย โดยมีเรื่องเล่าว่า หมอผีคนหนึ่งเคยทำยาสั่งใส่ในอาหารแล้วนำไปให้หนุ่มชาวกุลากิน หนุ่มชาวกุลาก็เอาอาหารใส่ในหม้อของเขาแล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย เล่นเอาหมอผีคนนั้นใจฝ่อไปเลยทีเดียวที่ยาสั่งอันมีฤทธิ์ทำให้คนถึงตายได้กลับไม่ได้ผลกับชนเผ่ากุลาแม้แต่น้อย นอกจากนี้ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งของพระอาจารย์โอคือท่าน“ครูบาตัน” ได้เคยบอกพระอาจารย์โอไว้ว่า “หม้อกุลานี้ขลังในตัว หากจะทำน้ำมันหรือสีผึ้งใดๆ หม้อกุลานี้แหละถือเป็นภาชนะที่ดีที่สุดแล้ว”

มีตำนานเล่าขานในหมู่คนเฒ่าคนแก่ในเพชรบูรณ์ว่า เจ้าเพียราษฏร์ที่เป็นเจ้าเมืองหล่มสักในสมัยก่อน เวลาจะขึ้นหลังช้าง ท่านจะให้เหล่าข้าราชบริพารหลายๆคนนำหอกที่มีปลายแหลมคมมางัดตัวท่านขึ้นบนหลังช้าง ซึ่งเจ้าเพียราษฏร์ท่านจะพกตะกรุดที่เอวอยู่3ดอก ซึ่งทำมาจาก “หม้อกุลา” นั่นเอง

หม้อกุลาใบที่พระอาจารย์โอได้นำมารีดทำตะกรุดนี้ เป็นหม้อพิเศษที่พระอาจารย์โอท่านใช้หุงสีผึ้งและน้ำมันเสน่ห์ต่างๆมานับไม่ถ้วน อยู่ในห้องพิธีมาเป็นสิบๆปี ผ่านพิธีการปลุกเสกมาแล้วทุกมนต์ทุกวิชา มวลความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ที่ประจุอยู่ในหม้อใบนี้จึงไม่อาจจะพรรณนาได้ จึงเหมาะสมเป็นที่สุดในการนำมาเป็นมวลสารในการทำตะกรุดที่พิเศษที่สุดเช่นกัน

🔮🥣Kula’s Partner Pot.🥣🔮 ⚠️The Mysterious Pot That No Pot Can Conpare With. About 100 years ago, “Kula Tribe” has highly respect in Buddhism. They donated a lot of money to repair many temples and also gave magic scriptures to the monks also. Moreover, “Kula Tribe” is the skillful tribe which has knowledge in many fields. One of interesting knowledge of them is “Magic” that helped them to travel around across many countries for commerce without dangers because they have magic subject to protect them from dangerous weapons or black magic. They are also primeval tribe that tattoo Yant on body skin so, most of the men of Kula Tribe always have tattoo on their legs.

Kula Tribe always carry goods to sell in others countries and one tribesman will has one pot to use in their diary life that was called as “Partner Pot”. This pot is not only durable but, it also has magic power itself because when Kula Tribe travelled oversea, they must faced with black magic from the magician in each country but, those black magic could not damage Kula Tribe even a little. There is a story about the “Partner Pot” of Kula Tribe that one day a black magician put deadly poison in a food before sent to a Kula tribesman to eat. When the Kula tribesman received the food from the black magician, he took all food into his “Partner Pot” and then he ate it all deliciously. The black magician suddenly shocked that the deadly poison that can kill human easily was useless with Kula Tribe. Moreover, one of Phra Arjarn O’s magic masters named “Kruba Tun” ever said to Phra Arjarn O that “The Partner Pot of Kula Tribe is powerful itself. Whenever you want to do some magic wax or oil, Partner Pot is the best container.”

There is a legend among old man in Phetchabun province that in the past there is a governor of Phetchabun named “Jao Pear Rart”, when he wanted to ride an elephant, he commanded his vassal to use the sharp spear lifted his body up to sit on the elephant’s back. There are 3 Takruds on his waist that were made from “Partnet Pot” of Kula Tribe.

The Kula’s Partner Pot that Phra Arjarn O used to make Takrud is the special pot that was used to bless various kinds of magic wax and oil in the ceremony room for a long time more than 10 years already. It was pass through Phra Arjarn O’s blessing from all of magical spells so, the dense of magical power of this pot is more than words. That’s why it is the best material to make best Takrud also.


🔮🥣#หม้อกุลา🥣🔮 ⚠️ #หม้อแห่งมนตราที่ยากหาใดเทียบเคียง เมื่อสมัยร้อยกว่าปีก่อน “ชนเผ่ากุลา” เป็นเผ่าที่มีความมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก พวกเขาได้บริจาคเงินจำนวนมากเพื่อบูรณะซ่อมแซมวัดภายในหมู่บ้าน อีกทั้งยังมอบคัมภีร์ที่มีอักษรจารึกทั้งภาษาไทยใหญ่ และภาษาพม่าให้แก่วัดอีกด้วย นอกจากนี้ชาวกุลายังเป็นชนเผ่าที่มีความเก่งกล้าสามารถ อีกทั้งยังมีความรู้ในศาสตร์หลายๆแขนง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางพุทธศาสนาหรือเวทมนตร์คุณไสยต่างๆ พวกเขาสามารถเดินทางไปไหนต่อไหนได้โดยไม่ต้องพะวงกับพรมแดนของประเทศ เพราะชาวกุลามีวิชาปกป้องตนเอง อยู่ยงคงกระพันต่อศาสตาวุธและคุณไสยทุกชนิด และว่ากันว่าเป็นชนเผ่าแรกเริ่มเลยก็ว่าได้ที่มีการสักเสกเลขยันต์ลงบนเนื้อหนัง จะเห็นได้จากชายหนุ่มในชนเผ่ากุลาจะมีลายสักเต็มขากันแทบทุกคน

ชาวกุลามักจะหอบเร่สินค้าต่างๆไปยังเมืองน้อยใหญ่ โดยชาวกุลาหนึ่งคนจะพกพาหม้อหนึ่งใบไว้ติดตัวโดยตลอด เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เรียกว่าเป็น “หม้อคู่ชีวิต” เลยก็ว่าได้ ซึ่งหม้อของชาวกุลานอกจากจะมีความแข็งแรงทนทานแล้ว ยังเชื่อกันว่ามีอาถรรพ์ในตัวอีกด้วย เพราะชาวกุลามักจะต้องเดินทางไปต่างถิ่นอยู่บ่อยๆ ก็ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกลองคุณลองวิชา แต่ชาวกุลาก็รอดจากคุณไสยเหล่านั้นมาได้อย่างปลอดภัย โดยมีเรื่องเล่าว่า หมอผีคนหนึ่งเคยทำยาสั่งใส่ในอาหารแล้วนำไปให้หนุ่มชาวกุลากิน หนุ่มชาวกุลาก็เอาอาหารใส่ในหม้อของเขาแล้วก็กินอย่างเอร็ดอร่อย เล่นเอาหมอผีคนนั้นใจฝ่อไปเลยทีเดียวที่ยาสั่งอันมีฤทธิ์ทำให้คนถึงตายได้กลับไม่ได้ผลกับชนเผ่ากุลาแม้แต่น้อย นอกจากนี้ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งของพระอาจารย์โอคือท่าน“ครูบาตัน” ได้เคยบอกพระอาจารย์โอไว้ว่า “หม้อกุลานี้ขลังในตัว หากจะทำน้ำมันหรือสีผึ้งใดๆ หม้อกุลานี้แหละถือเป็นภาชนะที่ดีที่สุดแล้ว”

มีตำนานเล่าขานในหมู่คนเฒ่าคนแก่ในเพชรบูรณ์ว่า เจ้าเพียราษฏร์ที่เป็นเจ้าเมืองหล่มสักในสมัยก่อน เวลาจะขึ้นหลังช้าง ท่านจะให้เหล่าข้าราชบริพารหลายๆคนนำหอกที่มีปลายแหลมคมมางัดตัวท่านขึ้นบนหลังช้าง ซึ่งเจ้าเพียราษฏร์ท่านจะพกตะกรุดที่เอวอยู่3ดอก ซึ่งทำมาจาก “หม้อกุลา” นั่นเอง

หม้อกุลาใบที่พระอาจารย์โอได้นำมารีดทำตะกรุดนี้ เป็นหม้อพิเศษที่พระอาจารย์โอท่านใช้หุงสีผึ้งและน้ำมันเสน่ห์ต่างๆมานับไม่ถ้วน อยู่ในห้องพิธีมาเป็นสิบๆปี ผ่านพิธีการปลุกเสกมาแล้วทุกมนต์ทุกวิชา มวลความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ที่ประจุอยู่ในหม้อใบนี้จึงไม่อาจจะพรรณนาได้ จึงเหมาะสมเป็นที่สุดในการนำมาเป็นมวลสารในการทำตะกรุดที่พิเศษที่สุดเช่นกัน

🔮🥣Kula’s Partner Pot.🥣🔮 ⚠️The Mysterious Pot That No Pot Can Conpare With. About 100 years ago, “Kula Tribe” has highly respect in Buddhism. They donated a lot of money to repair many temples and also gave magic scriptures to the monks also. Moreover, “Kula Tribe” is the skillful tribe which has knowledge in many fields. One of interesting knowledge of them is “Magic” that helped them to travel around across many countries for commerce without dangers because they have magic subject to protect them from dangerous weapons or black magic. They are also primeval tribe that tattoo Yant on body skin so, most of the men of Kula Tribe always have tattoo on their legs.

Kula Tribe always carry goods to sell in others countries and one tribesman will has one pot to use in their diary life that was called as “Partner Pot”. This pot is not only durable but, it also has magic power itself because when Kula Tribe travelled oversea, they must faced with black magic from the magician in each country but, those black magic could not damage Kula Tribe even a little. There is a story about the “Partner Pot” of Kula Tribe that one day a black magician put deadly poison in a food before sent to a Kula tribesman to eat. When the Kula tribesman received the food from the black magician, he took all food into his “Partner Pot” and then he ate it all deliciously. The black magician suddenly shocked that the deadly poison that can kill human easily was useless with Kula Tribe. Moreover, one of Phra Arjarn O’s magic masters named “Kruba Tun” ever said to Phra Arjarn O that “The Partner Pot of Kula Tribe is powerful itself. Whenever you want to do some magic wax or oil, Partner Pot is the best container.”

There is a legend among old man in Phetchabun province that in the past there is a governor of Phetchabun named “Jao Pear Rart”, when he wanted to ride an elephant, he commanded his vassal to use the sharp spear lifted his body up to sit on the elephant’s back. There are 3 Takruds on his waist that were made from “Partnet Pot” of Kula Tribe.

The Kula’s Partner Pot that Phra Arjarn O used to make Takrud is the special pot that was used to bless various kinds of magic wax and oil in the ceremony room for a long time more than 10 years already. It was pass through Phra Arjarn O’s blessing from all of magical spells so, the dense of magical power of this pot is more than words. That’s why it is the best material to make best Takrud also.


💕🥣#ตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ (เนื้อหม้อกุลา), พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา, พุทธสถานวิหารพระธรรมราช, จ.เพชรบูรณ์🥣💕 อุบัติขึ้นอีกครากับสุดยอดตะกรุดเสน่ห์ในตำนานนามว่าเสน่ห์ใจขาดที่มีพลานุภาพรุนแรงกว่ารุ่นใดๆที่เคยมีมา เพราะตะกรุดเสน่ห์ใจขาดชุดนี้คือ “ตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์” เป็นสุดยอดของตะกรุดเสน่ห์ใจขาดเฉกเช่นเดียวกับที่พระอาจารย์โอได้เคยสร้างไว้เมื่อปี2545เพียง2ดอกเท่านั้น

เมื่อกล่าวถึงวิชาเสน่ห์ใจขาด จะมีมากมายหลายยันต์และหลายขั้นตามตำรา ตัวอย่างเช่น สาริกาใจขาด, ใจขาดหญิงรัก และใจขาดชายรัก และที่ถือว่าเป็นสุดยอดของวิชาเสน่ห์ใจขาดคือยันต์เสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีวิธีการลงอักขระเลขยันต์ เรียกนามเรียกสูตรที่สลับซับซ้อนและมากมายหลายขั้นตอน ขนาดที่พระอาจารย์โอถึงกับเอ่ยปากว่าการทำตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ละครั้งนั้นยากลำบากไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว เนื่องด้วยอักขระแต่ละตัวก็จะมีสูตรในการเรียกที่ต่างกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นอักขระตัวเดียวกันก็ตาม เช่นอุณาโลมมี10ตัว แต่ละตัวก็จะมีการเรียกสูตรเฉพาะของแต่ละตัวของใครของมันไม่ซ้ำกันเลย เสมือนจิตใจของมนุษย์ที่ยากแท้หยั่งถึง มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การเรียกสูตรของอักขระแต่ละตัวจึงมีความหลากหลาย จะได้ปรับเปลี่ยนไปตามจิตใจผู้คนทั้งหลายรอบตัว เพื่อให้ผู้ที่เป็นเจ้าของสามารถครองใจคนทุกประเภทไว้ได้ ไม่ว่าเป็นผู้ใด มาจากไหน มีอุปนิสัยอย่างไรก็จักต้องเป็นหลงรักสิเน่หาแก่ผู้ที่เป็นเจ้าของตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี้

เป็นการจัดสร้างเพื่อเป็นการต่อยอดตำนานและสืบวิชาไว้อีกครั้งหนึ่ง สาเหตุที่ไม่ได้สร้างมานานด้วยเหตุที่ว่าตะกรุดเสน่ห์ใจขาดฟ้าศักดิ์สิทธิ์นี้สร้างได้ยาก และมีอานุภาพรุนแรงมากจนพระอาจารย์โอเกรงว่าคนที่นำไปบูชาจะนำไปใช้ในทางที่ผิดศีลธรรม การจัดสร้างครั้งนี้จึงมีจำนวนจำกัด โดยพระอาจารย์โอได้นำ “หม้อกุลา” ไปรีดและตัดเป็นแผ่น ก่อนจะทำการลงยันต์เสน่ห์ใจขาดฟ้าศักด์สิทธิ์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยกลวิชาขั้นตอนเฉพาะในฤกษ์เวลาและโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากมาก รวมไปถึงเคล็ดลับขั้นตอนต่างๆ