top of page

"หลวงปู่แวนกาย พนฺธสาโร” ผู้สืบสานตำนาน “มหาไสยเวทย์นครวัด” ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรขอม


ประวัติ “#หลวงปู่แวนกาย พนฺธสาโร”

ผู้สืบสานตำนาน “#มหาไสยเวทย์นครวัด

ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรขอม


“หลวงปู่แวนกาย พนฺธสาโร” เกิดวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2475 ปีจอ ปัจจุบันท่านละสังขารแล้ว เป็นชาวกัมพูชาโดยกำเนิด บิดา-มารดา ประกอบอาชีพทำนา บิดาของท่านเป็นอาจารย์ทางไสยเวทย์ที่เก่งท่านหนึ่งในกัมพูชา ด้วยเหตุนี้หลวงปู่แวนกายท่านจึงสนใจในวิชาอาคมต่างๆ จากบิดาตั้งแต่วัยเยาว์ทำให้ท่านมีพื้นฐานในวิชาอาคม และด้วยความใฝ่รู้ของท่านจึงได้ถอดอักขระยันต์ประตูนครวัดมาศึกษาจนสำเร็จและเข้าใจ หลวงปู่เรียกยันต์นี้ว่า “ยันต์อาถรรพ์” “ยันต์แม่กำเนิด” ปัจจุบันแผ่นยันต์นี้ได้ถูกขโมยไป ยันต์อาถรรพ์นี้หลวงปู่ท่านว่าศักดิ์สิทธิ์นัก เพราะเป็นต้นกำเนิดของวิชาอาคมต่าง ๆ


หลวงปู่ท่านสำเร็จวิชาอาคมจากบิดาท่านด้วยวัยเพียง 18 ปี ในปีพ.ศ.2495 เมื่ออายุครบบวช ได้บวชเรียนและศึกษาพระธรรมที่ วัดอำปึล จังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูง พูดจาไพเราะ ชอบช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก รวมทั้งออกเดินธุดงค์อยู่ในป่าเป็นเวลานานหลายปี


ในการปฏิบัติธรรม ท่านได้เพิ่มความเพียร โดยการออกธุดงค์ขึ้นไปบนเขากิเลน สถานที่ซึ่งถือเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธ์ การธุดงค์ครั้งนั้นท่านได้พบพระอาจารย์หลายรูปด้วยกัน แต่ละท่านล้วนเก่งกล้าในวิชาอาคม การใช้ชีวิตในถ้ำเขากิเลนนั้นเต็มเป็นไปด้วยความยากลำบาก พระคณาจารย์หลายท่านต้องจบชีวิตลงจากไข้ป่าที่ชุกชุมหรือสัตว์ป่าที่ดุร้าย รวมทั้งภูตผี ปีศาจ และผู้มีวิชาอาคมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสงฆ์หรือนักสิทธิ์วิทยา ฤาษี นักพรตนุ่งขาวห่มขาว บางส่วนที่มีมิจฉาทิฐิชอบทดสอบวิชาอาคมซึ่งกันและกัน เล่ากันว่าท่านทั้งหลายที่สามารถธุดงค์มายังเขากิเลนได้นั้น จะต้องมีวิชาอาคมพอที่จะรักษาตัวท่านให้รอดปลอดภัยกลับไปได้ พระผู้ปฏิบัติดีหลายท่านที่วิชาอาคมยังไม่แก่หล้าพอต้องมามรณภาพลง ณ เขากิเลน แห่งนี้


ณ เขากิเลนแห่งนี้ พบ “หลวงปู่สรวง” ที่ถ้ำเขากิเลน ชาวบ้านเรียกท่านว่า “หลวงปู่แคลง” หลวงปู่แวนกาย ได้กราบมนัสการท่าน และปวารณาตัวเป็นศิษย์ (ณ เวลาในปัจจุบันหลวงปู่สรวงท่านได้มาเกิดแล้ว ตอนนี้บวชเป็นสามเณร อายุ 17 ปี แต่ไม่ปรากฏตัวว่าอยู่ ณ ที่ใด (นี่คือคำบอกจากหลวงปู่แวนกาย ท่านเห็นในดวงจิต) หลวงปู่แวนกายท่านธุดงค์อยู่ป่าเป็นเวลานับสิบปี เมื่อได้พรรษามากวิชาอาคมของท่านก็แกร่งกล้ามากขึ้นตามลำดับ การธุดงค์ครั้งนี้ทำให้ท่านได้ทั้งธรรมะและวิชาอาคมจนเป็นที่พอใจ


กระทั้งปี พ.ศ. 2509 ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่ วัดอำปึล อำเภอโคกมอน จังหวัดอุดรมีชัย ในช่วงเวลานั้นบ้านเมืองของท่านอยู่ระหว่างเกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากสงครามอินโดจีนเป็นการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างกลุ่ม สองฝ่าย ประชาชนอดอยากแร้นแค้น สงครามกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสงบ การกลับมาของหลวงปู่แวนกายจึงเหมือนเป็นความหวังที่พึ่งสุดท้ายของเหล่าทหารและประชาชน ทุกนาทีชีวิตของทุกคนมีแต่อันตรายรอบด้านทั้งที่เป็นบ้านเกิดของตน เป็นที่เล่าขานกันเรื่องเครื่องรางของขลัง ของหลวงปู่แวนกายว่า แคล้วคลาดปลอดภัย อีกวิชาที่ชาวบ้านรวมทั้งทหารยอมรับและนิยมคือ การลงทองพร้อมทั้งการลงอักขระทั้งตัว กล่าวกันว่าผู้ใดที่หลวงปู่ ลงทองให้ไม่มีตายเพราะถูกกระสุนปืนหรือเหยียบกับระเบิดสักคน กระทั้งวัว, ความหรือลูกหลานที่ท่านเป่าหัวให้เหยียบกับระเบิดแต่ไม่ระเบิดสักลูก หรือถูกยิงแต่ไม่เป็นอะไร


ชาวบ้านและทหารล้วนให้ความศรัทธาหลวงปู่แวนกายมาก วัตถุมงคลของหลวงปู่ทุกแบบไม่ว่าจะเป็น ตะกรุด ผ้ายันต์ ต่างได้รับความนิยมจนเป็นที่กล่าวขานกันอย่างกว้างขวางผู้คนต่างเดินทางมากราบขอพรท่านเพื่อขอของดีจากท่านอย่างไม่ขาดสาย


ท่านได้เดินทางมาประเทศไทยและจำพรรษาที่ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ หลวงปู่มีพระสหายอยู่ที่ วัดตาอี คือหลวงปู่ชื่น หลวงปู่แวนกายได้มาจำพรรษาที่ วัดตาอี หลายพรรษาได้ช่วยหาเงินสร้างโบสถ์ วัดตาอี จนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2545 หลวงปู่แวนกายได้มาพักที่วัดช่องลมมหาชัย อยู่ประมาณ 3 เดือน และอีกหลายวัดในประเทศไทย เช่นวัดน้อยนางหงส์ มหาชัย, วัดแค สมุทรปราการ,วัดตาอี บุรีรัมย์, วัดแจ้ง นนทบุรี, วัดรวกบางสีทอง นนทบุรี ทุกครั้งที่หลวงปู่แวนกายเดินทางมาประเทศไทยท่านก็เมตตาช่วยเหลือวัดต่างๆ ที่ท่านไปในการสร้างวัตถุมงคลเพื่อนำปัจจัยมาบูรณะและปฏิสังขรณ์เสนาสนะของวัดที่ท่านไปจำพรรษามาโดยตลอด


หลวงปู่บอกว่า “มนุษย์ ต่างมีกรรมเป็นของตัวมากบ้างน้อยบ้าง ต่างวาระกัน ส่วนใหญ่มาพบท่านเพราะเกิดทุกข์ ให้ท่านช่วยแก้หลวงปู่ท่านทราบดีว่าไม่มีสิ่งใดจะแทนวิบากกรรรมได้แต่เรา สามารถหนีได้ด้วยการหมั่นสร้างกรรมดีให้มากเมื่อกรรมดีมีมากวิบากกรรมก็ตาม ไม่ทันเพราะฉะนั้นการที่เรามีเครื่องรางของขลังหรือพระดีติดตัวช่วยคุ้มครอง แคล้วคลาดก็ควรมีสติเตือนตัวเอง หากเราหยุดสร้างกรรมดีเมื่อไหร่วิบากกรรมตามทันเมื่อนั้น และที่สำคัญคือเกิดเป็นคนให้รู้คุณบิดามารดา ท่านคือพระองค์แรก ควรทำมงคลให้เกิดที่บ้านก่อน แล้วจึงค่อยแสวงหามงคลที่พระ อย่ารอเวลาที่จะทำความดีกับบิดามารดาเมื่อท่านยังมีชีวิตความกตัญญูกตเวทิตาคือสัญลักษณ์ของคนดี”


การปลุกเสกวัตถุมงคลของท่าน จะปลุกเสกอธิฐานจิตเดียวเพื่อความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ตลอดไตรมาสพรรษา สำหรับวัตถุมงคลของท่าน พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม ค้าขายดี เจรจาต่อรองสัมฤทธิผลนักแล ลูกศิษย์ลูกหาทั้งชาวไทยและกัมพูชาต่างมีความต้องการวัตถุมงคลของท่านไว้ บูชาเป็นจำนวนมาก...

10 views0 comments
bottom of page