top of page

#เหล็กไหลขะมาย #เหล็กไหลตาอยู่ ธาตุกายสิทธิ์ที่พระอาจารย์โอ “เป่า” เข้าตัวลูกศิษย์

ก่อนอื่นต้องขอเกร่นถึงที่มาที่ไปของเหล็กไหลชุดนี้ให้ฟังก่อน เพราะเดี๋ยวจะงงๆกันว่าทำไมพระอาจารย์ถึงเรียกว่า "เหล็กไหลขะมาย" (ที่ไม่ใช่ขโมย)

มหากาพย์ตำนานเหล็กไหลชุดนี้มันมีอยู่ว่า "หลวงปู่ฤาษี" กับ "หลวงปู่คำ" ท่านทั้งสองคือเทพเจ้าแห่งแดนอีสานใต้ (ขออนุญาติใช้นามสมมติทั้งสององค์ ปัจจุบันท่านทั้งสองได้ละสังขารแล้ว) ทั้งสองเป็นสหธรรมิกเพื่อนสนิทกัน ต่างคนต่างนับถือเสมือนศิษย์พี่ศิษย์น้อง

อยู่มาวันหนึ่งหลวงปู่ฤาษีก็นัดแนะหลวงปู่คำว่าจะไปตัดเหล็กไหลในถ้ำ พอทำพิธีตัดเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เหล็กไหลมาจำนวนหนึ่งไม่มากนัก ที่นี้พอได้มาแล้ว หลวงปู่ฤาษีกลับเอาเหล็กไหลไว้ทั้งหมดคนเดียว ไม่แบ่งหลวงปู่คำ หลวงปู่คำก็เลยรู้สึกไม่พอใจ ถึงขนาดตัดพี่ติดน้องกัน ตายไม่เผาผีกันเลยทีเดียว

เหล็กไหลชุดนี้ก็เลยอยู่กับหลวงปู่ฤาษีตลอดมา แกก็เก็บรักษาจนถึงบั้นปลายชีวิต แล้วทีนี้พอหลวงปู่ฤาษีมรณภาพลง ลูกศิษย์แกก็ต้องการนำเหล็กไหลมาแบ่งกัน แต่ติดอยู่ประเด็นเดียวตรงที่ว่า จะตัดแบ่งเหล็กไหลกันยังไง เพราะทดลองใช้สารพัดวิธีก็เกิดเหตุอาเพทปรากฏการณ์อาถรรพ์จนขยาดกันไปตามๆกัน

แม้ว่าหลวงปู่ฤาษีได้บอกถึงกรรมวิธีในการตัดแบ่งเหล็กไหล โดยจดใส่ในตำราไว้ให้แล้ว แต่พระเณรลูกศิษย์ในวัดเอาตำราไปเรียนไม่ติด เลยมีการเฟ้นหาคนที่อ่านเรียนตำรานี้เข้าใจ แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจ แม้จะหาผู้มีวิชาที่สามารถตัดแบ่งเหล็กไหลอยู่นานนมก็หาไม่ได้ จะหาผู้ทรงคุณความรู้พอที่พอจะคุมฤทธิ์แรงพยศของเหล็กไหลนี้ก็หาไม่เจอ

ท้ายที่สุด เหมือนฟ้ามีตา ลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงปู่ฤาษีก็ได้มาเจอกับ "ตาเพียร" ผู้เป็นพ่ออีนาง พอได้มีการพูดคุยกันจึงทราบว่า ตาเพียรคนนี้ค่อนข้างมีภูมิความรู้ในเรื่องของพิธีกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับเหล็กไหลอยู่พอตัว ลูกศิษย์หลวงปู่ฤาษีจึงเอาตำรานั้นมาให้แกดู เผื่อว่าแกจะเข้าใจและตัดแบ่งเหล็กไหลให้ได้

พอแกได้เห็นได้อ่านตำราไม่นาน ต่อยอดกับสิ่งที่แกเรียนมา แกก็เข้าใจถึงสิ่งที่หลวงปู่พรหมมาบอกไว้ได้ไม่ยาก สุดท้ายตาเพียรนี้จึงเป็นเพียงคนเดียวที่ตัดแบ่งเหล็กไหลชนิดนี้ได้ กลายเป็นบุคคลในตำนานที่ศิษย์หลวงปู่ฤาษีตามหามานานแสนนาน พอตาเพียรแกได้เหล็กไหลเจ้าปัญหามา แกก็ตัดแบ่งให้ได้จนสำเร็จ

แต่ด้วยนิสัยของตาเพียรที่ไม่ยอมทำอะไรให้ใครฟรีๆ ตาเพียรแกก็ได้ยักแบ่งเหล็กไหลไว้ส่วนหนึ่ง เช่นว่าเวลาศิษย์หลวงปู่ฤาษีนำเหล็กไหลมาให้แกแบ่งเป็นเม็ดเล็กๆเท่าข้าวสารสัก20เม็ด แกก็จะยักเอาไว้สัก 3-4 เม็ด แบบนี้เป็นต้น จะเรียกว่าขโมยก็ไม่เชิง เพราะแกก็มีสิทธิ์ของแก

แต่แม้ขนาดว่าตาเพียรเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเหล็กไหล ก็ยังต้านทานฤทธิ์เหล็กไหลชุดนี้แทบไม่ไหว เรียกว่าเอาไว้ในบ้านไม่ได้นาน แต่พอแกคิดจะเอาไปคืนศิษย์หลวงปู่ฤาษีก็ทำไม่ได้อีก กลัวโดนด่าว่าแอบยักไว้ เหมือนน้ำลายท่วมปาก

ตาเพียรแกเลยตัดสินใจเอาถวายให้พระอาจารย์โอเก็บรักษาแทน แกจะขี่รถมาลงที่หล่มสัก เอาพวกเครื่องรางของขลังจำพวกปลัดขิก นางกวัก อีเป๋อมาขายให้พระอาจารย์บ่อยๆตามวาระโอกาส แต่สำหรับเหล็กไหลชุดนี้แกยกถวายให้พระอาจารย์เฉยๆไม่ได้ขายเอาเงินเอาเบี้ยสักบาท

ครั้งแรกที่พระอาจารย์โอได้เหล็กไหลชุดนี้มา ท่านก็ใช้อภิญญากล่อมเกลาให้อยู่ในศีลในธรรมจนเหล็กไหลสงบลง ท่านเก็บไว้เองบ้าง เป่าเข้าตัวให้ลูกศิษย์บ้าง (เช่นผู้กองวัชรินทร์) ฝังให้ญาติโยมอุปัฏฐากบ้าง บรรจุไว้ในวัตถุมงคลบ้าง และยังได้มีหลวงพ่อชื่อดังองค์หนึ่ง มาขอแบ่งจากพระอาจารย์ไปเม็ดนึง ด้วยราคาที่สูงมากๆทีเดียว พระอาจารย์โอก็แบ่งให้ไป

เวลาผ่านไปไม่นาน กิตติศัพท์ความเก่งกาจของเหล็กไหลนี้ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงกัน เพราะมีคนไปลองของลองพุทธคุณสารพัดจนเป็นเรื่องให้โจษจันในหมู่นักล่าของวิเศษ พอมีคนรู้เห็นอิทธิฤทธิ์อันวิเศษของเหล็กไหลมากขึ้น ก็อยากได้อยากมีบ้าง แต่ทีนี้ของมันมีไม่พอ พระอาจารย์เลยไปตามมาจากตาเพียรเพิ่มอีก

พอพระอาจารย์พบตาเพียรอีกที ท่านก็นำปัจจัยที่ได้จากการแบ่งเหล็กไหลให้หลวงพ่อชื่อดัง มาให้ตาเพียรครึ่งนึง แต่ตาเพียรแกขอรับไว้แค่แสนเดียวพอ แกบอกว่าที่ถวายให้พระอาจารย์นั้น ไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทนอะไร เพราะวาสนาแกได้แค่เป็นผู้รักษาเพื่อส่งมอบให้ผู้มากบารมีอีกที ครั้งนั้นตาเพียรก็ได้ถวายเหล็กไหลให้พระอาจารย์ไว้อีกจำนวนหนึ่ง

พอเวลาผ่านไปอีกสักพัก ศิษย์หลวงปู่ฤาษีก็เอาเหล็กไหลมาให้ตาเพียรแบ่งเป็นเม็ดเล็กๆเท่าข้าวสารอีก บอกว่าจะเอาไปฝังให้พระผู้ใหญ่อีกสักสิบเม็ด แกก็จัดการตัดแบ่งเหล็กไหลให้เหมือนเดิม และแกก็ไม่พลาดที่จะแอบยักเก็บไว้อีกเช่นเคย เพราะรู้ว่าพระอาจารย์โอต้องการ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดซ้ำอยู่หลายครั้ง พระอาจารย์ก็เลยได้เหล็กไหลจากตาเพียรอยู่เรื่อยๆ ได้ครั้งละเม็ดสองเม็ดบ้าง ห้าหกเม็ดบ้างแล้วแต่โอกาส

จนถึงวันหนึ่งที่ตาเพียรแกสิ้นอายุไข “อีนาง” ผู้เป็นลูกสาวตาเพียรก็รู้ในจิต ด้วยเป็นคนมีสัมผัสที่หกอยู่แล้ว ว่าแค่วาสนาบารมีของตน คงเก็บเหล็กไหลชุดนี้เอาไว้ไม่ได้ ก็เลยนำเหล็กไหลชุดสุดท้ายที่ตาเพียรแกยักเก็บไว้มาถวายพระอาจารย์เหมือนที่พ่อเธอเคยทำ สุดท้ายพระอาจารย์ก็เลยได้เหล็กไหลชุดนี้มาอีก ถ้าจะนับจำนวนเหล็กไหลทั้งหมดที่พระอาจารย์ได้จากตาเพียร ก็นับรวมกันได้ประมาณ 40 กว่าเม็ดเท่านั้น

ดังนั้นถ้าท่านผู้อ่าน ได้อ่านมาถึงตรงนี้ จะสังเกตเห็นว่า เหล็กไหลชุดนี้ถือเป็นเหล็กไหลที่พระอาจารย์ท่านได้มาโดยไม่ต้องไปบุกป่าฝ่าดง เข้าหุบเขาถ้ำคีรี ทำพิธีอะไรอะไรให้ยุ่งยากลำบากเลย

พระอาจารย์โอท่านก็เลยว่า เหมือนเป็นของที่ "ขโมย (ตาเพียร)" ยักมาเพื่อให้ "ขะมาย (พระอาจารย์โอ)" อีกที ประดุจว่าท่านเป็น "ตาอยู่" ในสำนวนไทยก็ว่าได้ คือเค้าทะเลาะแย่งกันจะเป็นจะตาย แต่ท่านอยู่เฉยๆก็กลายผู้ครอบครองเหล็กไหลในตำนานไปโดยปริยาย ที่มาของชื่อ "เหล็กไหลขะมาย" หรือพระอาจารย์เรียกอีกชื่อว่า "เหล็กไหลตาอยู่" จึงถือกำเนิดขึ้น ก็ด้วยประการฉะนี้

"เหล็กไหลขะมาย" มีพลานุภาพและบารมีมาก เป็นธาตุกายสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์เหลือประมาณ อำนาจคุณวิเศษนั้นสุดจะพรรณา เรียกว่าครอบจักรวาล ทั้งวาสนา บารมี โชคลาภเงินทอง คุ้มครองกันภัย กันคุณไสยมนต์ดำ ไม่ว่าจะคนๆนั้นจะเป็นใครก็ช่วยหมด บันดาลได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา ยิ่งเป็นเหล็กไหลที่มีตำนาน มีเรื่องเล่า มีที่มาที่ไปแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งมีค่าควรเมือง ถือเป็นวาสนาสูงสุดของผู้ที่ได้ครอบครอง

พระอาจารย์จะนำมาเลี่ยมพร้อมกับโค๊ดการันตีความแท้ บรรจุใส่ขวดพร้อม "น้ำมันผักกาด" น้ำมันผักกาดชุดนี้ เดิมทีเป็นของ “สย่าจี” หรือสย่าแดง ผู้ดำรงตำแหน่งประมุขปรมาจารย์ผู้เฒ่าอาวุโสสูงสุดของนิกาย “นุกาหม่านวินไกน์” แห่งมัณฑะเลย์ ของทุกอย่างที่นิกายนี้สร้าง ถือเป็นที่สุดแห่งของวิเศษเกินคน เป็นน้ำมันชั้นสูง สารพัดจะใช้ตามอธิษฐาน เมื่อเชื่อว่าวิเศษ ศรัทธาว่าขลัง ก็ใช้ได้ตามประสงค์ พระอาจารย์มักนำมาแช่วัตถุมงคลพิเศษ อย่างเช่นยาจันทระ และยาสุริยะ ตามตำราห้ามใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของสัตว์มาทำ

นุกาหม่าน = แปลว่าฤทธิ์เดชของพญานาค วิน = แปลว่านักรบ ไกน์ = แปลว่านิกาย เมื่อนำคำทั้ง3มารวมกันจะได้ความหมายว่า "นิกายแห่งนักรบที่มีฤทธิ์เดชของพญานาค" กลุ่มนิกาย "นุกาหม่านวินไกน์" หรือเรียกกันสั้นๆว่า "วินไกน์" นี้ขึ้นชื่อว่าหยิ่งทรนง ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ไม่เคยจำนนต่อผู้ใด ลึกลับจนเป็นตำนานและเข้ายากที่สุด ว่ากันว่าในจำนวนคนหนึ่งล้านคนจะมีเพียงแค่คนเดียวที่ได้โอกาส และครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิตที่จะได้เข้านิกายนี้

เหล็กไหลขะมาย Leklai Ka Mind

25.000,00฿Price
    bottom of page